เรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจเรียนต่อที่เกาหลี
สิ่งที่ควรรู้ก่อนการตัดสินมาเรียนต่อที่เกาหลี! ค่าเทอมที่เกาหลีแพงจริงหรือเปล่า? ระยะเวลาเรียนต่างกับที่ไทยมั้ย?
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#เรียนต่อเกาหลี #มหาวิทยาลัยเกาหลี
#ค่าเทอมเกาหลี #ทุนเกาหลี
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่หลายคนอยากมาเรียนต่อ ด้วยสภาพอากาศ, วัฒนธรรมและระบบการศึกษาต่างๆทำให้ตอนนี้มีชาวต่างชาติจำนวนมากตัดสินใจมาเรียนต่อที่เกาหลีค่ะ แต่! การตัดสินใจมาเรียนต่อนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายๆอย่างค่ะ
วันนี้เราจะมาแนะนำเรื่องที่ควรรู้ก่อนการตัดสินใจมาเรียนต่อที่ประเทศเกาหลีใต้ ! คนที่กำลังวางแผนมาเรียนห้ามพลาดเลยค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
เรื่องที่ควรรู้ก่อนมาเรียนต่อที่เกาหลี
ปีการศึกษาของเกาหลี
โดยปกติมหาวิทยาลัยของเกาหลีและโรงเรียนต่างๆจะแบ่งเป็น 2 เทอมการศึกษาคือ ภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิ (Spring) และภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง (Fall) ค่ะ ตารางข้างล่างคือช่วงเวลาที่สำคัญที่นักศึกษาด้วยรู้ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัยค่ะ
ภาคเรียน | ช่วงเวลาเปิดรับสมัคร | การเปิดภาคเรียน | ช่วงปิดเทอม |
ภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิ (Spring) | กันยายน-พฤศจิกายน | มีนาคม | กรกฎาคม-สิงหาคม |
ภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง (Fall) | พฤษภาคม-มิถุนายน | กันยายน | มกราคม-กุมภาพันธ์ |
สำหรับคนที่วางแผนมาเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่เกาหลีควรศึกษาข้อมูลและตารางการรับสมัครจากเว็บไซต์หลักของมหาวิทยาลัย โดยสามารถอ้างอิงจากตารางเวลาที่เราแนะนำไว้ด้านบนได้ค่ะ ต้องเปิดเข้าไปดูรายละเอียดให้ดีจะได้ไม่พลาดช่วงเวลาารับสมัครค่ะ
ส่วนคนที่สนใจมาเรียนคอร์สภาษาเกาหลีก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบปกติและแบบคอร์สระยะสั้นที่ตรงกับช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ แต่ละสถาบันภาษาจะมีช่วงเวลารับสมัครและระยะเวลาเรียนแตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ
สำหรับคนที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมของสถาบันสอนภาษาเกาหลี (คลิก)อ่านได้ที่นี่เลยค่ะ
ภาคเรียน | ระยะเวลาการเรียน | ช่วงเปิดรับสมัคร | |
ชั้นเรียนปกติ | ฤดูใบไม้ผลิ | มีนาคม - พฤษภาคม | ธันวาคม |
ฤดูร้อน | มิถุนายน - สิงหาคม | มีนาคม | |
ฤดูใบไม้ร่วง | สิงหาคม - พฤศจิกายน | มิถุนายน | |
ฤดูหนาว | พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ | กันยายน | |
ชั้นเรียนพิเศษ | ซัมเมอร์ | มิถุนายน - กรกฎษคม | พฤษภาคม |
หมายเหตุ : ตารางด้านบนเป็นเพียงตารางสรุปโดยร่วมของช่วงเวลาเรียนเท่านั้น รายละเอียดของแต่สถาบันอาจแตกต่างกันไปเล็กน้อย
คุณสมบัติของผู้ที่จะเรียนต่อ
ระดับการศึกษา | คุณสมบัติ | ระยะเวลาตลอดการเรียน |
ปริญญาเอก | จบการศึกษาระดับปริญญาโท | อย่างน้อย 2 ปี |
ปริญญาโท | จบการศึกษาปริญญาตรี | อย่างน้อย 2 ปี |
ปริญญาตรี | จบการศึกษาระดับชั้นมัธยม (รวมทั้งหมด 12 ปี) | 4-6 ปี |
อนุปริญญา | จบการศึกษาระดับชั้นมัธยม (รวมทั้งหมด 12 ปี) | 2-3 ปี |
คอร์สเรียนภาษา | จบการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือสูงกว่า | 1-2 ปี |
นักเรียนแลกเปลี่ยน | กำลังศึกษาอยู่ระดับมหาวิทยาลัย | 1 เทอมการศึกษา - 1 ปี |
โครงการเรียนระยะสั้น | นักศึกษาที่อยู่ระหว่างการแลกเปลี่ยนหรือ ผู้ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย | 1 เทอมการศึกษา -1 ปี |
เรียนภาษาช่วงปิดเทอม | นักศึกษาที่มาแลกเปลี่ยนหรือเรียนภาษาช่วงปิดภาคเรียนซัมเมอร์หรือฤดูหนาว | 2-3 เดือน |
ข้อมูลอ้างอิงจาก Study in Korea
การมาเรียนต่อเกาหลีจำเป็นต้องมีคะแนน TOPIK หรือไม่?
หลายคนที่กำลังตัดสินใจเรื่องการมาเรียนต่อที่เกาหลีอาจกำลังกังวลเรื่อง "ภาษาเกาหลี" สำหรับคนที่ตั้งใจมาเรียนคอร์สภาษาก็คงไม่ต้องกังวลและไม่จำเป็นต้องใช้คะแนนภาษาเกาหลีเพราะยังไงก็ต้องมาเรียนเกี่ยวกับภาษาอยู่แล้วค่ะ
แต่สำหรับคนที่จะมาเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ คณะทีจำเป็นต้องมีภาษาเกาหลี และคณะที่ไม่จำเป็นค่ะ ดังนั้นก่อนตัดสินใจมาเรียนต่อทุกคนต้องเข้าไปดูรายละเอียดของแต่ละคณะว่า จำเป็นต้องมีคะแนน TOPIK หรือไม่
Cr. TOPIKguide
กรณีที่คณะที่เลือกเรียนมีการระบุว่าจำเป็นต้องใช้คะแนน TOPIK โดยทั่วไปแล้ว การเรียนระดับปริญญาตรีจะต้องการคะแนน TOPIK ระดับ 3 หรือมากกว่าและระดับปริญาโทขึ้นไปจะต้องการคะแนน TOPIK ระดับ 4 หรือมากกว่าค่ะ
สำหรับกรณีที่คณะที่ทุกคนเลือกเรียนมีคอร์สการเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด ส่วนใหญ่จะไม่จำเป็นต้องมีคะแนน TOPIK แต่สำหรับนักเรียนที่มาจากประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก (รวมถึงประเทศไทย) อาจจำเป็นต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษสำหรับการสมัครด้วยค่ะ
การขอวีซ่าสำหรับนักเรียน
โดยปกติผู้ที่ต้องการพักอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้เกิน 90 วันจำเป็นที่จะต้องขอวิซ่าในทุกรณีค่ะ โดยส่วนใหญ่วิซ่าสำหรับคนที่มาเรียนคอร์สระยะสั้นหรือคอร์สเรียนภาษาทีมีระยะเกิน 90 วันจะจัดอยู่ในประเภทวีซ่า D-4 ส่วนคนที่มาเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยขึ้นไปจะอยู่ในประเภทวีซ่า D-2 ค่ะ
ยกเว้นกรณีที่มาเรียนคอร์สภาษาเกาหลีระยะสั้นเช่น คอร์สช่วงซัมเมอร์ที่มีระยะไม่เกิน 90 วันก็ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าค่ะ (แต่ต้องกลับประเทศตามกำหนดเวลาด้วยนะคะ) แต่สำหรับคนที่มีแผนมาเรียนต่อแบบยาวๆ ตามคำแนะนำของ Study in Korea แนะนำให้ติดต่อสถานทูตเกาหลีที่ไทยเพื่อทำการขอวีซ่าก่อนมาค่ะ
แต่! การได้รับวีซ่าจากสถานทูตเกาหลีก็ไม่ได้หมายความว่าขั้นตอนเสร็จสิ้นนะคะ เพราะหลังจากที่เดินทางมาเกาหลีชาวต่างชาติจะต้องไปติดต่อที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อทำบัตรประจำตัวคนต่างชาติค่ะ (ARC) ถ้าไม่มีถือว่าผิดกฎหมายนะคะ
กรณีที่มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือเรียนคอร์สภาษาเกาหลีที่สถาบันสอนภาษา หลายสถาบันจะมีการดำเนินการขอวีซ่าให้กับนักเรียนที่มาเรียน ซึ่งนั้นก็จะง่ายสำหรับนักเรียนเพราะไม่ต้องไปขอวีซ่าก่อน เพียงแค่เตรียมเอกสารสำคัญมาให้พร้อมเท่านั้นค่ะ แต่! ต้องเช็ครายละเอียดกับสถาบันก่อนเพราะแต่ละที่ไม่เหมือนกันค่ะ
ค่าเทอมมหาวิทยาลัยเกาหลี
ทุกคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องค่าเทอมของมหาวิทยาลัยเกาหลีมีแพงมาก! (แพงจริงๆ เราขอยืนยันอีกคน) ซึ่งความจริงแล้วมหาวิทยาลัยในเกาหลีก็แบ่งเป็น 2 ประเภทนั้นก็คือ มหาวิทยาลัยเอกชนและมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการโดยรัฐบาลค่ะ
แน่นอนว่าค่าเทอมของมหาวิทยาลัยเอกชนก็ย่อมแพงกว่า ซึ่งอาจต่างกันมากถึง 2-3 เท่าเลยค่ะ เพื่อให้ทุกคนหายสงสัยเราได้สรุปค่าเทอมแบบคร่าวๆของมหาวิทยาลัยในเกาหลีมาให้ดูกันค่ะ
ระดับการศึกษา | คณะ | ค่าเทอม (วอน) |
ระดับปริญญาตรี | มนุษยศาสตร์ (Humanities) | 1,794,448 - 8,299,322 |
วิทยาศาสตร์ (Sciences) | 2,018,754 - 9,420,852 | |
ศิลปะและการกีฬา (Arts and Sports) | 2,130,907 - 9,533,005 | |
วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) | 2,018,754 - 9,308,699 | |
แพทย์ (Medicines) | 4,822,579 - 12,112,524 | |
ระดับปริญญาโท/เอก | มนุษยศาสตร์ (Humanities) | 1,233,683 - 14,916,349 |
วิทยาศาสตร์ (Sciences) | 1,682,295 - 9,645,158 | |
ศิลปะและการกีฬา (Arts and Sports) | 1,682,295 - 7,177,792 | |
วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) | 1,794,448 - 23,439,977 | |
แพทย์ (Medicines) | 2,579,519 - 11,888,218 |
อ้างอิงข้อมูลจาก Study in Korea
ถ้าดูจากตารางด้านบนแล้วก็บอกเลยว่า "แพงจริงๆ" ถือว่าแพงกว่าค่าเทอมของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยประมาณ 10 เท่าเลย สำหรับตัวเราเองที่เรียนคณะวิศวกรรมของมหาวิทยาลัยรัฐบาลก็เสียค่าเทอมประมาณ 3 ล้านวอน (ประมาณ 100,000 บาท) ค่ะ
ความจริงเรื่องค่าเทอมแพงก็เป็นปัญหาสำหรับคนเกาหลีเหมือนกันค่ะ เพราะแต่ล่ะปีค่าเทอมของแต่ละมหาวิทยาลัยก็มีแนวโน้มที่ปรับขึ้น จนหลายครั้งที่เหล่านักศึกษาและผู้ปกครองต้องออกมาประท้วงและเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีมาดูแลกำกับเรื่องค่าเทอมที่แพงเกินไปค่ะ
อยากรู้มั๊ย? มหาวิทยาลัยไหนดีที่สุดในเกาหลี! 5 อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของเกาหลี (คลิก)
นอกจากค่าเทอมแล้วมีค่าใช้จ่ายอะไรที่ต้องกังวลอีกหรือไม่?
อีกเรื่องที่หลายคนกังวลเกี่ยวกับการมาเรียนต่อที่เกาหลีคือเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราก็จะขอสรุปค่าใช้แบบคร่าวๆได้ดังต่อไปนี้ค่ะ
ประเภทค่าใช้จ่าย | ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ (บาท) |
คอร์สเรียนภาษา 1 คอร์ส (ประมาณ 10 อาทิตย์) | 40,000- 50,000 |
คอร์สเรียนภาษา 1 คอร์ส (ประมาณ 3 อาทิตย์) | 25,000 |
หอพักนักศึกษา | 10,000 - 12,000 ต่อเดือน ∗หอพักของแต่ละมหาวิทยาลัยจะต่างกันขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่พัก และรวมค่าอาหารด้วยหรือไม่ |
หอพักด้านนอก | 10,000 ต่อเดือน (ค่ามัดจำประมาณ 100,000-150,000) |
ค่าประกันสุขภาพ | 1,500 -2,000 ต่อเดือน |
ค่าเดินทาง | รถไฟใต้ดิน : 1,250 วอน (37 บาท) ต่อเที่ยว รถโดยสารประจำทาง : 1,000-2,500 วอน (30-75บาท) ต่อเที่ยว |
ค่าโทรศัพท์/อินเตอร์เน็ต | 500-1,000 |
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังกังวลเรื่องการมาเรียนต่อที่ประเทศเกาหลีใต้นะคะ ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราประมาณการไว้อาจมีการคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสถานที่และมหาวิทยาลัยที่ทุกคนเลือกเรียนค่ะ
สำหรับใครที่มีคำถามหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติมสามารถคอมเมนต์มาได้เลยค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand