คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการรีไซเคิลขยะของเกาหลี
การรีไซเคิลและการแยกขยะอย่างเคร่งครัดของคนเกาหลีจะต้องทำยังไงนะ?
สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน
#นโยบายการรีไซเคิล #การแยกขยะ
#การทิ้งขยะที่เกาหลี #รีไซเคิล
วันนี้เราจะมาพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการรีไซเคิลขยะของเกาหลีกันค่ะ! ด้วยจำนวนผู้คนบนโลกที่เพิ่มสูงขึ้น จึงมีการสร้างขยะเพิ่มขึ้นตามมา ดังนั้นนโยบายการรีไซเคิลจึงมีความสำคัญมากขึ้นเพื่อส่งเสริมสังคมที่ยั่งยืนนั่นเองค่ะ แน่นอนว่าเกาหลีก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยประชากรส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในโซล และเนื่องจากสังคมที่กำลังเติบโตนี้รัฐบาลจึงวางนโยบายส่งเสริมการรีไซเคิลและการแยกขยะอย่างเคร่งครัดนั่นเองค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand
🎈ช้อปปิ้ง|สั่งซื้อสินค้าเกาหลี
ความสำคัญและประวัติความเป็นมาของการรีไซเคิล
โซลเป็นเมืองใหญ่และมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องค่ะ ก่อนที่จะมีการกำหนดนโยบายการรีไซเคิล (재활용품) ขึ้นมานั้น ขยะทั้งหมดในโซลจะถูกนำไปฝังกลบหรือถูกเผาค่ะ จากรูปภาพด้านล่างทุกคนก็จะเห็นใช่มั้ยคะว่าขยะที่มีอยู่ในบ้านรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้จะถูกส่งไปยังโรงขยะและนำไปเผาทั้งหมดเลยล่ะค่ะ
อย่างไรก็ตามวิธีการกำจัดขยะแบบเผาหรือฝังกลบนั้นค่อนข้างเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมค่ะ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีแนวทางแก้ไขที่ดีกว่าในการจัดการขยะใช่มั้ยละคะ? ซึ่งนโยบายการรีไซเคิลก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงปี 1990 และนโยบายหลายอย่างเหล่าก็นี้ขับเคลื่อนโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเกาหลีนั่นเองค่ะ
ทางออกหนึ่งในการจัดการขยะให้ดีขึ้นก็คือระบบ Volume-Based Waste Fee (VBWF) ที่เริ่มใช้งานในปี 1995 ค่ะ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของขยะที่พวกเขาสร้างขึ้น โดยข้อกำหนดหลัก ๆ ของนโยบายนี้ก็คือประชาชนจะต้องซื้อถุงขยะที่กำหนดสำหรับขยะประเภทใดประเภทหนึ่งนั่นเองค่ะ
นโยบายการกำจัดขยะและการรีไซเคิลที่เข้มงวดมากขึ้นในตอนแรกนั้นไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเท่าไหร่จากสาธารณชน เนื่องจากแนวทางหลายอย่างยังคงคลุมเครือและไม่ชัดเจนนั่นเองค่ะ
แต่ตอนนี้ชาวเกาหลีก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับนโยบายเหล่านี้ได้ดีมากขึ้นค่ะ ดังนั้นตอนนี้การแยกขยะจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคนเกาหลีไปแล้วล่ะค่ะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นข้อดีมาก ๆ เพราะเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของสังคมและสิ่งแวดล้อมนั่นเองค่ะ
ขยะทั้งหมดรวมถึงขยะรีไซเคิลได้รับการคัดแยกและส่งไปที่โรงงานรีไซเคิล ในขณะที่เศษอาหารจะถูกส่งไปเป็นปุ๋ยหรืออาหารสัตว์ค่ะ
แผนผังด้านบนจะแสดงรายละเอียดและจำนวนของขยะบางประเภทที่ผลิตในปี 2018 ค่ะ มีขยะปกติ 3,033 ตันต่อวัน, ขยะรีไซเคิล 3,641 ตันต่อวัน, และเศษอาหาร 2,810 ตันต่อวันค่ะ
แม้ว่านโยบายเหล่านี้จะช่วยลดภาระด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้างในปัจจุบันค่ะ ปัญหาใหญ่ที่สุดที่เมืองโซลเผชิญก็คือผู้คนไม่ล้างขยะหรือวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้นั่นเองค่ะ เมื่อผลิตภัณฑ์มีเศษอาหารเหลืออยู่ก็จะไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ค่ะ
ดังนั้นเพื่อเพิ่มอัตราการรีไซเคิล จึงจำเป็นต้องทำความสะอาดผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสมก่อนทิ้งด้วยนะคะ ซึ่งการเพิ่มอัตราการรีไซเคิลก็จะช่วยป้องกันการสูญเสียทรัพยากรนั่นเองค่ะ
การกำจัดของเสีย
ระบบ VBWF จะมีถุงขยะเฉพาะสำหรับขยะแต่ละประเภทค่ะ ประเภททั่วไป ได้แก่ เศษอาหาร (음식물쓰레기), ขยะรีไซเคิล (재활용품), ขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิล / ขยะปกติ (일반쓰레기), และขยะขนาดใหญ่นั่นเองค่ะ
โดยทุกบ้านในเกาหลีจะต้องทิ้งขยะลงในถุงขยะที่กำหนดไว้ หากใครนำขยะใส่ถุงพลาสติกสีดำทั่วไปแล้วเอาไปทิ้งก็อาจจะถูกปรับได้นะคะ ซึ่งระบบถุงขยะนั้นออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาขยะในเกาหลีโดยเฉพาะเลยล่ะค่ะ
การให้ประชนชนทิ้งขยะลงในถุงที่กำหนดก่อนจะนำออกมาทิ้งนั้นสามารถลดปริมาณขยะและส่งเสริมการใช้วัสดุรีไซเคิลได้มากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ทิ้งขยะโดยใช้ถุงที่กำหนดอย่างถูกต้องแล้วนั้นก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มใด ๆ จะมีก็แค่ค่าถุงขยะเท่านั้นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติที่ไม่คุ้นเคยกับระบบถุงขยะแบบนี้ก็อาจจะรู้สึกงงในตอนแรก ดังนั้นเพื่อให้คุ้นเคยกับระบบนี้ เราก็มาเริ่มด้วยการดูว่าถุงขยะหน้าตาเป็นยังกันดีกว่าค่ะ!
ถุงขยะที่ใช้ก็จะเป็นถุงขยะเฉพาะสำหรับแต่ละเขตด้วยนะคะ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ถุงขยะของเขตอื่นได้ค่ะ ตัวอย่างเช่น หากอาศัยอยู่ในเขตคังนัม ก็ไม่สามารถใช้ถุงขยะจากเขตมยองดงได้นั่นเองค่ะ โดยเราสามารถซื้อถุงขยะเหล่านี้ได้ที่ร้านขายของชำทั่วไปในพื้นที่ของแต่ละเขตค่ะ หรือจะเป็นร้านค้าหรือร้านสะดวกซื้อก็ได้เช่นกัน ซึ่งราคาของถุงขยะจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและขนาดของถุง รวมถึงการใช้เงินสดหรือบัตรซื้อถุงขยะก็มีผลต่อราคาเช่นกันค่ะ
โดยทั่วไปถุงขยะขนาดปกติหนึ่งใบ (20 ลิตร) จะมีราคา 480 วอน ส่วนถุงขยะสำหรับใส่เศษอาหารจะมีขนาดเล็กกว่า (3 ลิตร) มีราคาประมาณ 300 วอนค่ะ นอกจากนี้ถุงขยะก็มักจะมีสีแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค และในส่วนของถุงขยะทั่วไปก็จะใช้ถุงสีขาวเกือบทั้งหมดค่ะ
ภาพด้านล่างเป็นถุงขยะธรรมดา (일반쓰레기) สำหรับทิ้งขยะในเขต Seocho-gu นั่นเองค่ะ
ภาพด้านล่างเป็นถุงขยะสำหรับทิ้งเศษอาหาร (음식물쓰레기) ของเขต Seocho-gu ค่ะ
ถุงขยะสำหรับทิ้งเศษอาหารจะมีสีแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค บางที่ก็จะมีสีฟ้าเหมือนของเขต Seocho-gu แต่บางที่ก็จะมีสีเหลืองหรือชมพูค่ะ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบสีของถุงขยะที่ใช้ในพื้นที่ของทุกคนให้รอบคอบนะคะ!
นอกจากนี้ก็ยังมีพื้นที่เฉพาะสำหรับการทิ้งขยะในอาคารที่พักอาศัย (อพาร์ตเมนต์, สำนักงาน ฯลฯ ) ด้วยนะคะ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบนโยบายของอาคารที่เราอยู่อาศัยให้ละเอียดนะคะ
ในกรณีของอพาร์ทเมนท์ก็จะมีกำหนดวันสำหรับการทิ้งขยะที่สามารถรีไซเคิลได้เป็นสัปดาห์ละครั้ง ส่วนขยะทั่วไปหรือเศษอาหารทุกคนสามารถทิ้งไว้ตรงสถานที่ที่กำหนดเพื่อรอให้รถขยะมาเก็บไปตามวันที่เจาะจงได้เลยค่ะ
อย่างไรก็ตาม สำหรับที่อยู่อาศัยอื่น ๆ เช่น บ้านเดี่ยว ก็อาจจะไม่มีการกำหนดวันที่ตายตัวนะคะ ดังนั้นสำหรับใครที่เช่าบ้านอยู่ในเกาหลีก็ควรจะสอบถามเจ้าของบ้านเกี่ยวกับวิธีการทิ้งขยะ, สถานที่ทิ้งขยะ, และตารางเวลาสำหรับการทิ้งขยะให้ชัดเจนด้วยค่ะ
สำหรับสินค้าขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถกำจัดได้โดยง่าย เราก็สามารถติดต่อสำนักงานเขต (구청) เพื่อนัดมาเก็บขยะได้นะคะ โดยจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมค่ะ
การแยกขยะประเภทต่าง ๆ
กฎทั่วไปของขั้นตอนการทิ้งขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ที่ควรทำคือ ทำให้ว่างเปล่า -> ล้างให้สะอาด -> ดึงฉลากที่เป็นสติกเกอร์ออก -> ทำให้แห้ง -> ลดผิวสัมผัสให้มากที่สุด (แผ่ออก, แบออก) -> เรียงให้เป็นระเบียบ -> ทิ้งในสถานที่ที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสม
1. กระดาษ (종이류)
ตามกฎทั่วไป ผลิตภัณฑ์กระดาษที่เปื้อนอาหารไม่สามารถรีไซเคิลได้ค่ะ โดยจะต้องนำไปทิ้งในถังขยะธรรมดาแทน แต่สำหรับหนังสือพิมพ์จะต้องแน่ใจว่าตัวกระดาษแห้งและแบน นอกจากนี้ก็อย่าลืมแยกใบปลิวโฆษณาหรือพลาสติกใด ๆ ที่อาจจะซ่อนอยู่ในหน้ากระดาษด้วยนะคะ เนื่องจากใบปลิวและพลาสติกจะต้องแยกออกมาเป็นขยะหมวดหมู่อื่น ๆ ค่ะ
สำหรับหนังสือหรือสมุด ก่อนทิ้งจะต้องดึงปกหนังสือทั้งหมดออกมาด้วยค่ะ สำหรับสมุดบันทึกที่มีสันแบบเกลียว ก็จะต้องถอดสันเกลียวออกและแยกไว้เป็นขยะในหมวดหมู่ที่เหมาะสมค่ะ
ส่วนถ้วยกระดาษหรือแก้วกระดาษต่าง ๆ ก็อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจด้วยนะคะว่าถ้วยกระดาษทั้งหมดว่างเปล่า จากนั้นให้นำไปล้างด้วยน้ำสะอาดและรีดให้เรียบค่ะ
สำหรับกล่องและกระดาษแข็ง อย่าลืมนำเทป, สติกเกอร์, และฉลากออกด้วยนะคะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวกล่องแบนและแห้ง จากนั้นให้วางซ้อน ๆ และมัดเข้าด้วยกัน แล้วนำไปทิ้งในบริเวณที่เหมาะสมค่ะ
2. กล่อง (종이팩)
หมวดหมู่นี้ประกอบไปด้วย กล่องนม, ม้วนกระดาษเช็ดมือ, ม้วนกระดาษชำระ, และกล่องทิชชู่ค่ะ
หลักการเดียวกันกับการทิ้งกระดาษเลยค่ะ โดยจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล่องทั้งหมดสะอาด และอย่าลืมนำวัสดุที่ไม่ใช่กระดาษ (เช่น พลาสติก) ออกด้วยนะคะ จากนั้นก็ทำกล่องให้แบน นำมากองและมัดรวมกันเพื่อกำจัดค่ะ
3. ภาชนะพลาสติก (플라스틱 용기류)
พลาสติกมีหลายประเภท ดังนั้นเราจะแนะนำพลาสติกต่าง ๆ แยกกันนะคะ โดยพลาสติกอันดับแรกก็คือ "ภาชนะพลาสติก" นั่นเองค่ะ อาจจะเป็นภาชนะเครื่องดื่มพลาสติกหรือขวดผงซักฟอกที่เป็นพลาสติกก็ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วภาชนะเหล่านี้มักจะมีสีค่ะ (มีหมวดหมู่แยกต่างหากสำหรับพลาสติกใส)
แน่นอนว่าใช้หลักการเดียวกันเลยค่ะ นั่นก็คือการ "ทำให้ว่างเปล่า -> ล้าง -> นำไปทิ้ง" นั่นเองค่ะ แต่ถ้ามีฉลากหรือสติกเกอร์ที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างจากภาชนะ ก็อย่าลืมนำออกก่อนทิ้งด้วยนะคะ และหากไม่สามารถล้างภายในได้ (เช่น หลอดยาสีฟัน) ก็ให้ทิ้งในถังขยะปกติได้เลยค่ะ
4. ไวนิล (비닐류)
ไวนิลเป็นพลาสติกอีกประเภทหนึ่งค่ะ ส่วนใหญ่จะหมายถึงถุงต่าง ๆ เช่น พลาสติกบางใสที่ใช้ห่อหุ้มอาหารหรือถุงพลาสติกนั่นเองค่ะ แต่ก็มีบางรายการที่ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของหมวดหมู่นี้ แต่ไม่สามารถรีไซเคิลได้เหมือนกันนะคะ ได้แก่ ถุงมือยาง, เสื่อ, สิ่งที่เปื้อนอาหาร, และผ้าคลุมโต๊ะ
5. ขวดพลาสติกใส PET (투명페트병)
PET (polyethylene terephthalate) คือวัสดุที่ใช้ทำขวดน้ำพลาสติกใส แต่ที่แยกออกมาเป็นหมวดหมู่ต่างหากเนื่องจากขวดประเภทนี้สามารถรีไซเคิลได้ง่ายกว่า และวัสดุมีคุณภาพสูงกว่านั่นเองค่ะ ขวดเหล่านี้สามารถนำไปใช้ทำเป็นเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, และสำลีก้อนได้ด้วยนะคะ
วิธีกำจัดพลาสติกใสประเภท PET ก็ง่ายมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ก่อนอื่นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าภายในสะอาด นอกจากนี้หากฉลากทำจากพลาสติกชนิดอื่น ๆ ก็อย่าลืมนำออกก่อนทิ้งด้วยนะคะ ซึ่งการแยกฉลากพลาสติกก็จะช่วยเพิ่มอัตราการรีไซเคิลของขวดเหล่านี้นั่นเองค่ะ และถ้าทำให้ขวดแบนเรียบด้วยก็จะยอดเยี่ยมมาก ๆ เลยค่ะ เพียงแค่เปิดฝาแล้วบีบอากาศออกให้หมดเท่านั้นเอง
6. โฟมสีขาว (흰색 스티로폼류)
หมวดหมู่นี้ยังรวมไปถึงบับเบิ้ล, แรป, หรือฟิลเลอร์ที่ใช้เพื่อป้องกันสินค้าในกล่องด้วยนะคะ กฎทั่วไปในการทิ้งก็คือ "ทำให้ว่างเปล่า -> ล้าง -> นำฉลากหรือสติกเกอร์ออก -> นำไปทิ้งในพื้นที่ที่กำหนด" นั่นเองค่ะ สำหรับสไตโรโฟม (Styrofoam) ที่ใช้ป้องกันผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ (เช่น คอมพิวเตอร์, ทีวี, เครื่องใช้ในครัว ฯลฯ ) โดยปกติเราก็สามารถนำกลับไปคืนที่ร้านค้าที่เราซื้อมา จากนั้นทางร้านก็จะรีไซเคิลให้ค่ะ
สินค้าที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ได้แก่ สไตโรโฟมที่มีสี และสไตโรโฟมที่ใช้ในการก่อสร้าง
7. ขวดแก้ว (유리병)
ขวดแก้วมักจะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ค่ะ ขวดแก้วมี 2 ประเภทด้วยกัน คือ ขวดที่สามารถนำไปคืนที่ร้านเพื่อขอคืนเงินมัดจำ และขวด EPR (Extended Producer Responsibility) ค่ะ
มีการทำเครื่องหมายขวดแก้ว EPR (แสดงในรูปด้านบน) และเราก็สามารถรีไซเคิลขวดประเภทนี้ได้ที่บ้านเลยค่ะ
ส่วนขวดที่สามารถนำไปคืนที่ร้านเพื่อขอคืนเงินมัดจำได้ก็คือขวดเครื่องดื่มที่มีการคิดราคาขวดรวมไปกับค่าเครื่องดื่มแล้วนั่นเองค่ะ โดยปกติแล้วจะมีค่าขวดอยู่ที่ 100 - 130 วอน หากนำขวดกลับไปคืนที่ร้านค้าที่ซื้อมา เราก็จะได้รับเงินคืนนั่นเองค่ะ
กระบวนการกำจัดก็ทั่วไปเลยค่ะ คือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าขวดไม่เสียหาย เพราะหากขวดแตกก็จะไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้นะคะ จากนั้นก็ทำความสะอาดและนำฉลากหรือสติกเกอร์ออกค่ะ อย่าใส่ก้นบุหรี่ลงในขวดนะคะ มิฉะนั้นจะไม่สามารถรีไซเคิลได้ค่ะ
สำหรับเศษแก้วใด ๆ ให้ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์แล้วทิ้งในถังขยะปกติ ส่วนผลิตภัณฑ์แก้วคริสตัล, หลอดไฟ, แจกัน, และเครื่องครัวก็ไม่สามารถรีไซเคิลได้เช่นกันนะคะ
8. โลหะ (금속캔 및 고철류)
ของที่อยู่ในหมวดหมู่โลหะ ได้แก่ กระป๋องเครื่องดื่ม, กระป๋องอาหาร, ตะปู, สายโลหะ, อลูมิเนียมบริสุทธิ์ ฯลฯ วัสดุเหล่านี้หลังถูกรีไซเคิลจะกลายไปเป็นกระป๋องและเหล็กเส้นอื่น ๆ ค่ะ ส่วนกระบวนการกำจัดก็คล้าย ๆ ขยะในหมวดหมู่อื่น ๆ เลยค่ะ นั่นก็คือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าโลหะนั้นสะอาดก่อนทิ้ง และอย่าลืมนำพลาสติก, ฉลาก, และสติกเกอร์ที่ไม่ได้ทำจากโลหะออกด้วยนะคะ
กระป๋องใด ๆ ที่มีก้นบุหรี่อยู่ข้างในไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้นะคะ นอกจากนี้อลูมิเนียมฟอยล์ก็ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้เช่นกันค่ะ ส่วนกระป๋องบิวเทน (ใช้สำหรับเตาแก๊สแบบพกพา) และกระป๋องสเปรย์สามารถรีไซเคิลได้เมื่อว่างเปล่าเท่านั้น ดังนั้นจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เจาะรูกระป๋องก่อนทิ้งด้วยนะคะ
อย่างไรก็ตาม หากต้องการทิ้งกระป๋องที่มีก๊าซเหลืออยู่ ก็มีถุงที่กำหนดให้ใช้ด้วยนะคะ โดยเราสามารถติดต่อสำนักงานในเขตของเราเพื่อรับถุงได้เลยค่ะ
9. ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ (폐전자제품)
หากต้องการทิ้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เราสามารถขอให้ร้านที่เราไปซื้อของใหม่มาช่วยรีไซเคิลผลิตภัณฑ์เก่าของเราได้ค่ะ ตัวอย่างเช่น หากเราซื้อ Macbook เครื่องใหม่ เราก็สามารถขอให้พนักงานร้าน Apple รีไซเคิล Macbook เครื่องเก่าของเราได้นั่นเองค่ะ
หรือจะไปทิ้งในสถานที่ที่รวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้เช่นกันนะคะ โดยเราต้องติดต่อไปที่สำนักงานเขตเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่เหล่านั้นค่ะ และสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ที่ยากต่อการกำจัด (ตู้เย็น, ทีวี ฯลฯ ) เราก็สามารถติดต่อสำนักงานเขต (구청) เพื่อให้มารับไปทิ้งได้ โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมค่ะ
10. ขยะอื่น ๆ
มีขยะอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงในหมวดหมู่ข้างต้น เราจะพาไปดูรายละเอียดกันค่ะ
- ถ่าน, แบตเตอรี่ : มีสถานที่ที่กำหนดสำหรับการทิ้งถ่านหรือแบตเตอรี่โดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในร้านสะดวกซื้อค่ะ (เฉพาะถ่าน, แบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือ)
- เสื้อผ้า, ผ้า : มักจะมีถังขยะสำหรับเสื้อผ้าและผ้าโดยเฉพาะ ประเภทของผ้าที่สามารถรีไซเคิลได้แบบปกติ ได้แก่ เสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, ผ้าม่าน, และพรม ส่วนผ้าที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ คือ กระเป๋าที่มีล้อเลื่อน (กระเป๋าเดินทาง), หมอน, และผ้าเช็ดตัว
- น้ำมัน : น้ำมันปรุงอาหารเมื่อทำให้เย็นลงก็มีแนวโน้มที่จะแข็งตัวค่ะ สิ่งนี้อาจทำให้เกิดปัญหากับท่อประปาได้หากทิ้งน้ำมันลงอ่างล้างจาน ดังนั้นให้ทิ้งน้ำมันใส่กระป๋องหรือขวดแล้วทิ้งในถังขยะปกติแทนค่ะ
- หลอดไฟ : ไม่สามารถรีไซเคิลหลอดไฟหรือ LED ที่แตกได้ ให้ห่อด้วยกระดาษแล้วทิ้งลงในถังขยะทั่วไปแทน ส่วนหลอดไฟที่ยังไม่บุบสลาย ก็มีสถานที่สำหรับการรีไซเคิลให้ทิ้งโดยเฉพาะ
- ตาข่ายผลไม้ : ตาข่ายที่ใช้เก็บผลไม้หรือผัก สามารถรีไซเคิลเป็นพลาสติกได้ แต่ถ้ารู้สึกไม่แน่ใจก็สามารถทิ้งลงในถังขยะปกติได้เช่นกันค่ะ
- ซองน้ำแข็ง (Ice pack) : สามารถทิ้งซองน้ำแข็งลงในถังขยะทั่วไปได้
ขอย้ำอีกครั้งว่า สิ่งใดก็ตามที่ไม่อยู่ในหมวดหมู่ที่สามารถรีไซเคิลได้ เราสามารถทิ้งลงในถังขยะทั่วไปได้เลยค่ะ
ตัวอย่างสิ่งของที่สามารถทิ้งลงในถังขยะทั่วไป ได้แก่ ตะเกียบไม้, แปรงสีฟัน, ผ้าอ้อม, ใบเสร็จ, สติกเกอร์, กระดาษห่อ, แคปซูลยา, เทป, รางปลั๊ก, กระดาษเคลือบ, สิ่งของที่เปื้อนอาหาร, และถุงมือยาง / ยางลาเท็กซ์
สำหรับขยะบางรายการก็จะมีถุง PP (polypropylene) สำหรับทิ้งโดยเฉพาะ ขยะเหล่านี้ ได้แก่ ของเล่น, ยาง, เชือกพลาสติก, กระจก, กระเบื้อง, กระเป๋า, วอลเปเปอร์, ผ้าห่ม, เสื่อ, และลูกบอล
การทิ้งสิ่งของข้างต้นในปริมาณเล็กน้อยนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีปริมาณมากก็อาจจะต้องติดต่อไปที่สำนักงานเขตเพื่อขอรับถุง PP เพิ่มเติมค่ะ
ความรับผิดชอบต่อสังคม
แน่นอนว่าเมื่อมีการแยกขยะแบบเคร่งครัดแล้ว ก็ต้องมีนโยบายในการลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวเช่นกันค่ะ ใครที่เคยมาเกาหลีอาจจะเจอบ่อย ๆ ที่ร้านค้าส่วนใหญ่จะเรียกเก็บเงิน 100 วอนสำหรับถุงพลาสติก ดังนั้นผู้ซื้อจึงควรนำถุงผ้ามาเองค่ะ ทั้งประหยัดเงินและช่วยกันลดพลาสติกด้วยนะคะ
ร้านแมคโดนัลด์บางแห่งในโซลก็ไม่มีหลอดพลาสติกให้ค่ะ
ร้าน Starbucks ในโซลจะมีหลอดกระดาษสำหรับเครื่องดื่มแทนหลอดพลาสติกค่ะ
นอกจากนี้ยังมีถังขยะมากมายที่เอาไว้ทิ้งผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ในพื้นที่สาธารณะด้วยนะคะ
มีทั้งถังขยะสำหรับทิ้งกระดาษและพลาสติกใสค่ะ (PET)
ถังขยะในเกาหลีอยู่ที่ไหน?
แม้สถานที่มากมายในโซล เช่น ร้านกาแฟ, สถานีรถไฟใต้ดิน, และห้องน้ำสาธารณะ จะมีถังขยะรองรับอย่างดี แต่ตามข้างถนนกลับหาถังขยะได้ยากมาก ๆ เลยล่ะค่ะ! เคยมั้ยคะที่เดิน ๆ อยู่แล้วก็ไม่รู้จะทิ้งใบปลิวหรือทิชชู่ใช้แล้วตรงไหนดี เพราะว่าหาถังขยะไม่เจอเลยนั่นเอง!
นี่เป็นประเด็นที่คนเกาหลีก็เห็นด้วยมาก ๆ เลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะในปี 2018 เมื่อรัฐบาลออกกฎหมายห้ามไม่ให้นำเครื่องดื่มหรืออาหารขึ้นไปทานบนรถโดยสารสาธารณะ ทำให้ผู้โดยสารหลาย ๆ คนพยายามจะหาที่ทิ้งแก้วน้ำก่อนจะขึ้นรถบัส แต่ว่าตรงป้ายรถบัสกลับไม่มีถังขยะค่ะ! กลายเป็นอะไรที่วุ่นวายมาก ๆ แถมยังมีหลายคนที่ทิ้งขยะไว้ตรงที่นั่งรอรถบัสเพราะว่าไม่มีทางเลือกด้วยล่ะค่ะ
ในปัจจุบันสามารถหาถังขยะแถวป้ายรถบัสได้อย่างง่ายดายแล้วค่ะ ดังนั้นปัญหาการทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางจึงดีขึ้นมาก เห็นได้ชัดเลยใช่มั้ยละคะว่าการไม่มีถังขยะมันทำให้เกิดความไม่สะดวกขนาดไหน?
มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ไม่ค่อยมีถังขยะอยู่ข้างถนนค่ะ สาเหตุแรกเลยก็คือ ในย่านใจกลางเมือง เช่น ฮงแดและมยองดง จะมีคนเยอะมาก ๆ ดังนั้นการทิ้งขยะต่าง ๆ จึงค่อนข้างมั่วและไม่มีการแยกขยะค่ะ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องกลิ่นและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะให้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เนื่องจากมีจำนวนครอบครัวที่นำขยะในบ้านมาทิ้งที่ถังขยะสาธารณะมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีการแยกขยะ ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นคิดว่าการตั้งถังขยะไว้ข้างถนนเป็นปัญหานั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาการทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางที่เริ่มร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ การเพิ่มจำนวนถังขยะสาธารณะก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เลยล่ะค่ะ แต่ผู้ที่ทิ้งขยะก็จะต้องปฏิบัติตามมารยาทที่ดีด้วยเช่นกันนะคะ
ค่าปรับสำหรับการทิ้งขยะ
ค่าปรับสำหรับการทิ้งขยะอย่างผิดกฎหมายอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละภูมิภาค แต่โดยทั่วไปจะมีดังต่อไปนี้
- ทิ้งก้นบุหรี่ กระดาษชำระ ฯลฯ ลงบนถนน: 50,000 วอน
- ทิ้งขยะที่ใช้ในครัวเรือนนอกสถานที่ที่กำหนดไว้: 100,000 วอน
- ทิ้งขยะโดยใช้ถุงพลาสติกทั่วไป แทนการใช้ถุงทิ้งขยะที่กำหนดไว้: 200,000 วอน (สำคัญ!!)
จะเห็นได้ว่าค่าปรับสำหรับการทิ้งขยะอย่างผิดกฎหมายในเกาหลีนั้นสูงมาก ๆ เลยใช่มั้ยละคะ? และเราก็คิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องยากมาก ๆ สำหรับคนต่างชาติที่ไม่ทราบตำแหน่งของถังขยะหรือไม่ทราบเกี่ยวกับระบบถุงขยะในเกาหลี
อย่างไรก็ตาม อย่างที่เราได้อธิบายไว้ข้างต้น ถุงขยะสำหรับทิ้งขยะชนิดต่าง ๆ สามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดายและมีราคาถูกมาก ๆ ที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ดังนั้นก็อย่าลืมใช้ถุงขยะในการทิ้งขยะกันด้วยนะคะ~!
เว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์
หากทุกคนต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีไซเคิลขยะของเกาหลี หรือนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมทั่วไปในโซล ก็สามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ต่อไปนี้ได้เลยนะคะ
SUSA (Seoul Urban Solutions Agency)
เป็นยังไงกันบ้างคะกับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการรีไซเคิลขยะของประเทศเกาหลี ยิ่งอ่านก็ยิ่งมีข้อมูลและข้อกำหนดมากมายเลยใช่มั้ยละคะ? แต่เพราะสังคมเคร่งครัดแบบนี้ก็เลยทำให้ประเทศเกาหลีสามารถแยกขยะและรีไซเคิลขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ
🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube
✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand