cr.  Mnet, JYP AUDITION 페이스북

สวัสดีค่ะทุกคน! พวกเรา Creatrip ศูนย์รวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุก ๆ วัน

#kpop #ไอดอลเกาหลี

#ออดิชั่นเกาหลี #ค่ายเพลงเกาหลี

#เดบิวต์

ด้วยอิทธิพลของกระแส K-pop และไอดอลเกาหลีที่ดังไปทั่วโลก ทำให้เด็กหลายคนมีความฝันที่จะเป็นไอดอลบ้าง แต่กว่าที่เด็กธรรมดาคนหนึ่งจะกลายเป็นไอดอลที่โด่งดังพวกเขาต้องทำยังไงบ้าง? และการเป็นไอดอลเกาหลีมีวิธีการอย่างไรบ้างนะ?

วันนี้พบกับเส้นทางกว่าจะกลายเป็นไอดอลเกาหลี และเบื้องหลังความยากลำบากที่พวกเขาของเผชิญกว่าจะประสบความสำเร็จในฐานะไอดอลค่ะ  

  🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube 

✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง｜สั่งซื้อสินค้าเกาหลี

เส้นทางการเป็นไอดอลเกาหลี

กว่าจะกลายเป็นไอดอล

cr. Mnet

ตอนนี้คาดว่าจะมีคนที่ต้องการเป็นไอดอลในเกาหลีประมาณ 1 ล้านคน จากผลการสำรวจนักเรียนระดับประถมศึกษา, มัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมปลายโดย Maeil Economic Daily เมื่อปี 2018 พบว่ามีนักเรียนประมาณ 70% เคยคิดอยากจะเป็นคนดังหรือไอดอลที่สามารถร้องและเต้นได้อย่างยอดเยี่ยม, เป็นที่รักของแฟนๆ และอยู่ท่ามกลางสปอร์ตไลฟ์ค่ะ  

ถือเป็นอาชีพที่น่าอิจฉาใช่มั๊ยคะ? แล้วกว่าจะเป็นไอดอลต้องผ่านกระบวนการแบบไหนบ้างนะ?

กว่าจะได้เป็นเด็กฝึกของค่ายเพลง 

cr. ET news

ก่อนที่จะเป็นไอดอล ทุกคนต้องผ่านการเป็นเด็กฝึกและเซ็นต์สัญญากับค่ายต้นสังกัดก่อน แม้จะมีไอดอลบางคนที่ได้เดบิวต์โดยไม่ได้รับการฝึก แต่ส่วนใหญ่ต้องผ่านช่วงเวลาการเป็นเด็กฝึกก่อนที่จะได้เดบิวต์จริงๆค่ะ และเส้นทางการเป็นเด็กฝึกต้องทำอะไรบ้าง?

1. แคสติ้งตามถนน 

การแคสติ้งตามท้องถนนหมายถึง การมองหาคนที่ตรงกับสเปคของบริษัทตามท้องถนนทั่วไป ซึ่งแต่ละค่ายจะมีทีมพัฒนาความสามารถที่จะคอยมองหาเด็กๆและผู้มีความสามารถใหม่ๆมาเป็นเด็กฝึกในสังกัด โดยมีผู้จัดการการคัดเลือกนักแสดงที่อยู่ในทีม ว่ากันว่าคนที่ถูกแคสติ้งตามถนนทั่วไปต้องเป็นคนที่ดูดีจริงๆ หรือตรงกับภาพลักษณ์ของกลุ่มไอดอลที่พวกเขากำลังวางแผนไว้ค่ะ

แต่การผ่านการคัดเลือกตามท้องถนนไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเป็นเด็กฝึกได้ทันที เพราะหลังจากนั้นต้องผ่านการออดิชั่นและทดสอบหน้ากล้องขั้นพื้นฐานก่อนที่จะเซ็นต์สัญญาค่ะ

2. การเปิดออดิชั่นของแต่ละค่าย 

ค่ายเพลงในเกาหลีเกือบทั้งหมดมีการเปิดออดิชั่นต่างๆ เพื่อค้นหาผู้ที่มีความสามารถใหม่ๆ มีทั้งการออดิชั่นทั่วไป, การออดิชั่นระดับประเทศและออดิชั่นทัวร์ต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีการคัดเลือกที่จัดขึ้นเป็นแบบเฉพาะด้วยค่ะ 

ซึ่งแต่ละค่ายมักมีการออดิชั่นแบบทั่วไปและการออดิชั่นแบบถาวรที่เปิดเป็นแระจำและตลอด บางครั้งก็มีการออดิชั่นระดับประเทศหรือออดิชั่นต่างประเทศเพื่อเข้าการเป็นเด็กฝึกของค่าย ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการออดิชั่นเพื่อเลือกสมาชิกของกลุ่มไอดอลที่จะเปิดตัวอีกด้วย อย่างเช่นการออดิชั่นระดับโลกของ HYBE ประกาศในเดือนตุลาคมปีนี้เพื่อการเปิดตัวกลุ่มไอดอลหญิงค่ะ

เนื่องจากการออดิชั่นมีหลายประเภทด้วยกัน จึงเป็นการยากที่จะบอกรายละเอียดข้อมูลการออดิชั่นของแต่ะละค่าย แต่สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์และบอร์ดประกาศของค่ายซึ่งจะมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลาค่ะ

มาดูการเปิดออดิชั่นของแต่ละค่ายที่มีตอนนี้กันค่ะ

HYBE 

ออนไลน์ออดิชั่น

ตอนนี้ค่าย HYBE กำลังเปิดออดิชั่นแบบออนไลน์ ที่ผู้สมัครเป็นผู้ชายที่เกิดหลังปี 2003  ที่ต้องการเป็นนักร้อง, นักแสดงหรือนายแบบ สมัครโดยการส่งแบบฟอร์มใบสมัครและไฟล์แนบวิดีโอที่แสดงความสามารถของตัวเองบนเว็บไซต์ออดิชั่นของ HYBE ซึ่งเฉพาะผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกเท่านั้นจะได้รับแจ้งเป็นรายบุคคลภายใน 2 สัปดาห์ค่ะ

YG

ออนไลน์ออดิชั่น 

YG Ent. ก็เปิดออดิชั่นสำหรับร้อง, แร็พและเต้น จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2030 โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเพศ, สัญชาติ หรืออายุ แต่ผู้สมัครสามารถสมัครได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นค่ะ โดยสามารถสมัครผ่านทางออนไลน์และหลังจากนั้นจะแจ้งเป็นรายบุคคลภายใน 2-4 สัปดาห์ เพื่อทำการออดิชั่นที่ค่ายครั้งที่ 2 ค่ะ

SM

ออนไลน์ออดิชั่น 

SM  Ent. มักจะเปิดออดิชั่นผ่านอีเมลหรือเว็บไซต์ออนไลน์อยู่เสมอ โดยสามารถแนบไฟล์ต่างๆ ที่แสดงความเป็นตัวตนเช่น ไฟล์วิดีโอการร้องเพลง, การเต้นหรือการแสดง, ไฟล์เสียงบันทึกเพลงหรือแร็พ พร้อมกับรูปภาพด้านหน้าและรูปโปรไฟล์แบบเต็มตัวค่ะ

การออดิชั่นวันเสาร์ (Saturday Audition)

การออดิชั่นวันเสาร์หรือ Saturday Audition เป็นการออดิชั่นของ SM จัดมาประมาณ 20 ปี โดยจัดขึ้นทุกวันเสาร์ที่อาคารสำนักงานของ SM หรือที่ SM COEX Artium โดยมีผู้คนมากมายที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นไอดอลเข้าแถวหน้า SM ทุกวันเสาร์ค่ะ

ว่ากันว่ามีเพียงไอดอล 7 คนของ SM ที่เดบิวต์ผ่านการออดิชั่นในวันเสาร์นั้นก็คือฮีชอล Super Junior, ยุนอา Girls’ Generation, แทมิน SHINee, ซึลกิ Red Velvet, แฮชานและจองอู NCT และจีเซล aespa แต่เนื่องจากโควิด ทางค่ายจึงกำลังจัดออดิชั่นในวันเสาร์ผ่าน ZOOM ค่ะ

JYP

ออนไลน์ออดิชั่น

JYP ก็เปิดออดิชั่นออนไลน์สำหรับการร้อง, เต้น, แร็พ, การแสดง และนางแบบนายแบบผ่านเว็บไซต์ทางการของ JYP โดยไม่มีการจำกัดอายุ เพศ หรือสัญชาติและสามารถสมัครออนไลน์ได้ตลอดเวลาค่ะ

ศูนย์ออดิชั่น 

cr.  JYP AUDITION Facebook

JYP จะจัดออดิชั่นนอกสถานที่ในวันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือนที่อาคาร JYP โดยสามารถสมัครได้ทั้งการร้องเพลง, แร็พ, เต้น, การแสดงหรือนายแบบนางแบบ ผู้ที่ออดิชั่นต้องมีอายุระหว่าง 12 - 25 ปีตามอายุเกาหลี และไม่มีข้อจำกัดด้านเพศ, วุฒิการศึกษา หรือสัญชาติ แต่เพราะโควิดทำให้การออดิชั่นนี้หยุดไปชั่วคราวค่ะ

3. การออดิชั่นผ่านสถาบันสอนเต้น, ร้อง 

cr. 스테이지 631

ที่เกาหลีมีสถาบันสอนร้องและเต้นสำหรับคนที่อยากเป็นไอดอลหลายแห่งมากๆ และบางครั้งสถาบันเหล่านี้ก็ดำเนินการจากค่ายโดยตรงค่ะ ซึ่งปกติค่าเล่าเรียนจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 วอนถึง 600,000 วอนต่อเดือน ถือเป็นอีกเส้นทางที่สามารถเป็นไอดอลได้ค่ะ

สำหรับสถาบันที่มีคอนเนคชั่นกับค่ายเพลง พวกเขาจะแนะนำให้เด็กที่มีทักษะสูงเข้าค่ายเพลง หรือหลังจากดูวิดีโอประเมินผลจากสถาบันทางค่ายก็จะทำการติดต่อกลับไปค่ะ โดยสถาบันขนาดใหญ่จะมีตัวแทนของค่ายไปคัดเลือกตัวโดยเฉพาะ ซึ่งความน่าจะเป็นที่จะผ่านค่อนข้างสูงกว่าการคัดเลือกทั่วไปเล็กน้อยเพราะอัตราการแข่งขันต่ำค่ะ

ชีวิตการเป็นเด็กฝึก 

cr. 헤럴드 경제

หลังจากผ่านการออดิชั่นก็ถึงขั้นตอนการเป็นเด็กฝึก แม้จะมาไกลขนาดนี้แล้วก็ยังผ่านการแข่งขันมามากมาย แต่นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนอาจจะใช้เวลาหลายเดือนหรือนานถึงหลายปีในการฝึก เพื่อที่จะเติบโตเป็นไอดอลที่สมบูรณ์แบบ

ซึ่งเด็กฝึกจะต้องเข้าฝึกทั้งการเต้น, การร้องเพลง, การแสดง, การออกรายการ, ภาษาต่างประเทศ และบุคลิกภาพค่ะ โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกจะต้องจ่ายด้วยกำไรที่ได้รับหลังจากที่เด็กฝึกได้เดบิวต์ค่ะ

cr. PD 수첩

จากข้อมูลอ้างอิงกล่าว่า หากเด็กฝึกต้องจ่ายเงินระหว่างที่กำลังฝึกอยู่กับค่าย มีโอกาสสูงที่ค่ายนั้นจะเป็นพวกต้มตุ๋นค่ะ อย่างไอยูก่อนที่จะได้เดบิวต์ก็เคยโดยพวกแก๊งค์ต้มตุ๋นหลอก 2-3 ครั้งและเสียเงินไปเยอะเลยค่ะ ดังนั้นใครที่ได้รับคำตอบกลับมาว่าผ่านการออดิชั่นต้องระวังให้ดีด้วยนะคะ

cr. PD 수첩

นอกจากนี้ยังมีเอเจนซี่มากมายที่พยายามหลอกลวงและขายเด็กฝึกผู้หญิงให้กับสปอนเซอร์ โดยส่วนมากจะเป็นเด็กฝึกที่หน้าตาสวยเหมือนดารา และเนื่องจากพวกเธอยังไม่มีชื่อเสียง จึงไม่ค่อยเกิดปัญหาหรือมีผู้เปิดโปงเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนักค่ะ ว่ากันว่ามีเด็กฝึกหลายคนที่ยอมเพราะเอเจนซี่โกหกว่าถ้ายอมทำจะได้เดบิวต์ค่ะ

ด้วยความฝันที่อยากเป็นไอดอลทำให้เด็กหลายคนจำยอมกับสถานการณ์นี้ แต่บางคนก็ยกเลิกสัญญาและหนีออกไป ซึ่งถ้าผิดสัญญา เด็กฝึกจะต้องจ่ายค่าปรับ 100 ถึง 150 ล้านวอน แต่เมื่อปี 2017  Fair Trade Commission ได้แก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมโดยการตรวจสอบสัญญาฝึกของค่ายเพลงในประเทศค่ะ

cr. Mnet 

เด็กฝึกทุกคนต้องฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอและขยันหมั่นเพียร รวมถึงต้องเข้ารับการประเมินความสามารถทุกสิ้นเดือน โดยการประเมินเหล่านี้จะถูกใช้เพื่อตัดสินว่าเด็กฝึกสามารถเดบิวต์ได้หรือไม่ค่ะ คล้ายกับในรายการ Produce 101, Idol School และ Girls Planet 999 เลยค่ะ

cr. 중앙일보

อย่างที่เห็นจากรายการออดิชั่นเหล่านี้ การเดบิวต์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพยายามหรือทักษะ แน่นอนว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ความพยายามไม่ใช่สิ่งการันตีว่าจะประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะฝึกซ้อมด้วยความพยายามอย่างเต็มที่มาเกือบ 10 ปีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถเดบิวต์ได้หากภาพลักษณ์ไม่ตรงกับไอดอลที่ค่ายต้องการค่ะ

หลังจากล่วงเลยช่วงอายุ 20 กลางๆ เด็กฝึกส่วนมากก็จะล้มเลิกความฝันการเป็นไอดอล เนื่องจากไอดอลส่วนใหญ่เดบิวต์ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายหรืออายุ 20 ต้นๆ ฉะนั้นหากอายุมากหรือเกินจากช่วงอายุดังกล่าว หลายคนจึงทราบกันดีว่าการที่จะได้เดบิวต์เป็นไอดอลเป็นเรื่องที่ยากค่ะ

cr. PD 수첩

และเนื่องจากเด็กฝึกเหล่านี้ตั้งใจและมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวเป็นไอดอล จึงมักมีปัญหาการหางานใหม่ค่ะ เพราะตั้งแต่เด็กต้องไปที่ห้องซ้อมแทนที่จะไปโรงเรียนดังนั้นจึงแทบไม่มีความสามารถอื่นๆเลย เช่น ชอนดุง สมาชิกวง MBLAQ ที่เริ่มต้นชีวิตเด็กฝึกเมื่ออายุ 17 ปีและเดบิวต์เมื่ออายุ 19 ปี แม้ว่าตอนนี้เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยังให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่รู้ว่าจะซื้อของออนไลน์หรือโอนเงินอย่างไรค่ะ

เด็กฝึกและไอดอลมักจะพลาดประสบการณ์ต่างๆที่คนธรรมดาได้รับ นั่นเป็นเหตุผลที่การเตรียมไอดอลเป็นสิ่งที่ต้องเสี่ยงค่อนข้างสูงค่ะ

การเดบิวต์ 

cr. SM 루키즈

หลังจากผ่านการฝึกฝนกันมาอย่างหนักหน่วง เด็กฝึกที่ได้รับการคัดเลือกก็จะได้เดลิวต์เป็นไอดอลค่ะ ซึ่งเด็กฝึกเหล่านั้นจะต้องมีภาพลักษณ์ที่เข้ากับกลุ่มที่ทางค่ายต้องการจะเดบิวต์และต้องมีทักษะที่ดีในระดับหนึ่งค่ะ 

นอกจากนี้สมาชิกแต่ละคนต้องเข้ากันได้เพราะต้องใช้เวลาร่วมกันอย่างมาก จนเรียกได้ว่าแทบจะตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ แต่แม้ว่าจะโชคดีได้เดบิวต์ แต่ก็ไม่มีอะไรสามารถการันตีได้ว่าวงของพวกเขาจะประสบความสำเร็จ

cr. 부산일보

ตามที่ Idolology ซึ่งเป็นเว็บไซน์ที่เชี่ยวชาญด้านการวิจารณ์เพลงไอดอลเกาหลี ระบุว่ามีไอดอลใหม่ 60 กลุ่มที่เดบิวต์ในปี 2015 รวมจำนวนทั้งหมด 324 คน แต่มีไอดอลเพียงไม่กี่คนที่กลายเป็นที่รู้จักมาจนถึงปัจจุบันค่ะ 

นับตั้งแต่ช่วงเวลาการเป็นเด็กฝึก, ช่วงการเตรียมตัวเพื่อเดบิวต์, การเดบิวต์และกว่าจะประสบความสำเร็จในการโปรโมต มีความน่าจะเป็นน้อยกว่า 0.01% ที่ไอดอลเหล่านี้จะประสบความสำเร็จ และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่ากันว่าการประสบความสำเร็จในฐานะไอดอลนั้นต่ำกว่าโอกาสที่จะถูกลอตเตอรีค่ะ

นี่ก็คือเส้นทางกว่าจะกลายเป็นไอดอลที่ประสบความสำเร็จค่ะ ใครที่มีความฝันอยากเป็นไอดอลก็รู้อยู่แล้วว่าเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและต้องใช้ความพยายามอย่างมากค่ะ 

  🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube 

✨Creatrip Instagram
instagram.com/creatrip.thailand

🎈ช้อปปิ้ง｜สั่งซื้อสินค้าเกาหลี